หนึ่ง, หาความรู้ก่อนการลงทุน

ผู้ชำนาญการด้านการลงทุนในสหรัฐอเมริกา ปีเตอร์ ลินช์ กล่าวว่า: “การลงทุนโดยไม่ศึกษาเป็นอันตรายเท่าๆ กับการเล่นไพ่โดยไม่ดูไพ่” ในตลาดเงินตราเราก็ควรศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและรายงานผลประจำไตรมาสหรือปีของบริษัทอย่างละเอียด ก่อนที่จะลงทุนในคู่เงินใดๆ

สอง, รู้ทิศทาง ทำเงินมาก

สำหรับนักลงทุนตลาดเงินตรา จะต้องศึกษาสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมมหภาคและปัจจัยจุลภาค ตลาดเงินตราเป็นระบบที่ซับซ้อน ซึ่งรวมถึงปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม สังเกตแนวโน้มสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบ การสนับสนุนทางนโยบาย และแนวคิดใหม่ๆ ในตลาด หากพบสัญญาณชอบให้ทำตามแนวโน้มเพื่อทำกำไร

สาม, ไม่ต้องมาก แค่ขอให้แม่น

ริชาร์ด คอค กล่าวว่า: “ถ้าคุณมุ่งเน้นไปที่คู่เงินไม่กี่คู่ คุณจะมีความคิดลึกซึ้งมากขึ้นและตัดสินใจในการซื้อขายอย่างรอบคอบ” หลังจากค้นคว้าข้อมูลอย่างทั่วถึงและวิเคราะห์ลักษณะของตลาดอย่างละเอียด คุณจะสามารถลงมือได้อย่างรอบคอบ การเลือกหุ้นต้องมีคุณภาพ ยิ่งเลือกน้อยก็ยิ่งเข้าใจลักษณะหุ้นได้ง่าย ทำให้การบริหารความเสี่ยงทำได้ดีขึ้น

สี่, ลงทุนในสิ่งที่คุ้นเคย

ปรัชญาการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตกล่าวว่า: “ทำสิ่งที่คุณคุ้นเคยในระยะยาว ไม่ทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย” ตลาดเงินตราไม่มีเพียงขึ้นอย่างเดียว และไม่มีเพียงลงอย่างเดียว เมื่อเลือกคู่เงินที่คุ้นเคยแล้ว ให้ขายเมื่อมีการขึ้นเยอะ และซื้อเมื่อมีการลงเยอะ สร้างกำไรจากการซื้อต่ำขายสูง จนกระทั่งประสบความสำเร็จ

ห้า, พอใจ ไม่โลภ

สุภาษิตจีนกล่าวว่า: “คนที่รู้จักพอประมาณจะได้รับโชค” การเก็งกำไรในตลาดเงินตรานั้นสำคัญมาก ถ้าราคาขึ้นถึงระดับที่พอใจก็ให้ขายไว้ก่อน อย่าผูกพันมากเกินไป ความโลภอาจทำให้โอกาสทองหนีไป การลงทุนที่มีประสบการณ์ควรมีระดับเป้าหมายการทำกำไรที่ลดลงและลงมือเมื่อถึงเวลาเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดี

หก, สร้างความเชี่ยวชาญ

ในตลาดเงินตรามีทฤษฎี เทคนิค ดัชนี และซอฟต์แวร์มากมาย แต่คนที่รวยจากสิ่งเหล่านี้มีน้อย เนื่องจากบางครั้งมันยากที่จะทำความเข้าใจ สู้หันมาสร้างความเชี่ยวชาญในแนวทางใดแนวทางหนึ่งและทำคู่เงินที่คุ้นเคย จะมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า

เจ็ด, จิตใจดี มีความมั่นใจ

มีคนกล่าวว่า “การลงทุนในตลาดเงินตราคือการรักษาจิตใจ” หากจิตใจแปรปรวนตามสภาพตลาดคุณจะทำการลงทุนไม่สำเร็จ การลงทุนในหุ้นเปรียบเสมือนการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล มีการปลูกพืชในฤดูใบไม้ผลิ การเพาะปลูกในฤดูร้อน การเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง และการเก็บรักษาในฤดูหนาว สิ่งนี้ต้องการทั้งความชาญฉลาด ความกล้าหาญ และความมั่นใจ รวมถึงการไม่หลงระเริงในชัยชนะและไม่ท้อถอยในความพ่ายแพ้