การซื้อขายข่าว

มีสองวิธีในการซื้อขายข่าว:

• การซื้อขายตามแนวทิศทาง
• การซื้อขายแบบไม่มุ่งหวังทิศทาง

การซื้อขายตามแนวทิศทาง

การซื้อขายตามแนวทิศทางหมายถึงคุณคาดว่าหลังจากรายงานข่าวถูกเปิดเผย ตลาดจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่เฉพาะเจาะจง เมื่อเรากำลังมองหาโอกาสในการซื้อขายในแนวทิศทางนั้น การรู้ว่าเป็นปัจจัยอะไรในรายงานข่าวที่ทำให้ตลาดผันผวนจึงสำคัญ

ค่าคาดการณ์ vs ค่าที่เกิดขึ้นจริง

หลายวันหรือหลายสัปดาห์ก่อนที่รายงานข่าวจะออกมา นักวิเคราะห์จะคาดการณ์ข้อมูลในรายงานที่จะถูกเปิดเผย ในบทเรียนก่อนหน้านี้ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับการคาดการณ์ที่ไม่เหมือนกันระหว่างนักวิเคราะห์ต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม จะมีตัวเลขหนึ่งที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ซึ่งตัวเลขนี้คือ “ค่าคาดการณ์” ที่เราเห็นในปฏิทินเศรษฐกิจ

เมื่อมีการเผยแพร่รายงานข่าว ค่าที่เปิดเผยในที่สุดเรียกว่า “ค่าที่เกิดขึ้นจริง”

ซื้อมโนทัศน์ ขายข่าว

นี่เป็นคำที่เป็นที่รู้จักกันดีในตลาดแลกเปลี่ยน เนื่องจากตามปกติแล้วเมื่อมีการเผยแพร่รายงานข่าว สถานการณ์ในตลาดมักไม่ตรงกับทิศทางที่คุณเชื่อว่ารายงานจะทำให้เกิดขึ้น

ตัวอย่างเช่น ตลาดคาดการณ์ว่าจะเห็นอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น สมมติว่าอัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนที่แล้วอยู่ที่ 8.8% และตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการเผยแพร่อัตราการว่างงานที่ 9.0%

โดยที่ค่าคาดการณ์คือ 9.0% ซึ่งหมายความว่าผู้เข้าร่วมตลาดรายใหญ่ต่างคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอ่อนแอลงกว่าเดิม ผลลัพธ์ก็คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

ในความคาดหวังนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดรายใหญ่จะไม่รอตัดสินใจก่อนรายงานเผยแพร่ แต่พวกเขาจะเริ่มต้นการขายค่าเงินดอลลาร์ออกไปก่อน

ตอนนี้ สมมติว่าค่าที่เปิดเผยในอัตราการว่างงานที่คาดการไว้คือ 9.0%

ในฐานะนักเทรดฟอเร็กซ์ เมื่อคุณเห็นข้อมูลนี้คุณอาจคิดว่า “ดี เครื่องหมายบ่งชี้ว่าแย่มาก ตอนนี้ถึงเวลาขายค่าเงินดอลลาร์แล้ว!”

แต่เมื่อคุณตั้งใจจะทำการขายค่าเงินดอลลาร์ในแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ คุณจะพบว่าตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวตามทิศทางที่คุณคิดไว้ นี่เป็นผลมาจากการที่นักลงทุนสถาบันใหญ่ได้ปรับตำแหน่งของพวกเขาก่อนการเปิดเผยรายงาน และหลังจากที่รายงานเปิดเผยแล้ว พวกเขาได้เลือกที่จะทำกำไร

ตัวอย่างที่สอง

มาดูตัวอย่างนี้อีกครั้ง แต่ในครั้งนี้สมมติว่าค่าที่เปิดเผยในอัตราการว่างงานคือ 8.0% ผู้เข้าร่วมตลาดคาดการณ์ว่าจะเห็นอัตราการว่างงานอยู่ที่ 9.0% แต่ค่าที่เปิดเผยกลับแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น

คุณจะพบว่าค่าเงินดอลลาร์พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดรายใหญ่ไม่ได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์นี้ ในเมื่อรายงานถูกเผยแพร่และข้อมูลที่เปิดเผยแตกต่างจากที่เคยคาดการณ์ พวกเขาก็จะพยายามปรับตำแหน่งของพวกเขาให้เร็วที่สุด

ถ้าข้อมูลที่เปิดเผยเป็น 10.0% สถานการณ์นี้ก็จะเกิดขึ้นเช่นกัน เพียงแต่ในกรณีนี้ ค่าเงินดอลลาร์จะดิ่งลงมากแทน เนื่องจากตลาดคาดการณ์อัตราการว่างงานอยู่ที่ 9.0% แต่ค่าที่เปิดเผยจริงสูงถึง 10.0% นักลงทุนสถาบันใหญ่จะขายค่าเงินดอลลาร์ที่ถืออยู่มากขึ้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้

การวิเคราะห์ค่าคาดการณ์และค่าที่เกิดขึ้นจริงสามารถช่วยให้คุณประเมินได้ดียิ่งขึ้นว่า รายงานข่าวใดที่สามารถทำให้ตลาดเคลื่อนไหวและทิศทางที่ตลาดเลือกได้ดีขึ้น

การซื้อขายแบบไม่มุ่งหวังทิศทาง

กลยุทธ์การซื้อขายที่แพร่หลายมากขึ้นคือการซื้อขายแบบไม่มุ่งหวังทิศทาง วิธีนี้ไม่คำนึงถึงความผันผวนที่มีทิศทางในตลาด แต่เน้นไปที่ข้อเท็จจริงว่า รายงานข่าวสำคัญจะทำให้ตลาดมีความผันผวนมาก ดังนั้นทิศทางที่ตลาดจะเคลื่อนไหวเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ

กล่าวคือ เมื่อใดก็ตามที่ตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง คุณก็มีแผนการเข้าซื้อขายที่พร้อมอยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องมีแนวโน้มที่จะมองตรงหรือตรงข้าม ดังนั้นจึงเรียกว่าการซื้อขายแบบไม่มุ่งหวังทิศทาง