ทำไมเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ไม่ค่อยพูดคุยเกี่ยวกับรายได้จากการเทรด

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไม เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์มืออาชีพจึงไม่ค่อยพูดถึงรายได้จากการเทรดฟอเร็กซ์ นอกจากในกลุ่มเพื่อนและครอบครัว? จริงๆแล้ว มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับรู้ทางจิตใจ

การเปรียบเทียบรายได้

คุณมีเพื่อนคนหนึ่งที่มีรายได้สูงและเขาเคยถามคุณว่าคุณทำเงินจากการเทรดฟอเร็กซ์ได้เท่าใด คุณจะตอบว่าอย่างไร? แม้จะไม่มีใครถาม แต่ในฐานะที่เป็นเทรดเดอร์ คุณอาจจะคิดเปรียบเทียบรายได้การเทรดของคุณกับพนักงานทั่วไป

ตัวอย่างการลงทุนของคุณ

สมมติว่าคุณมีเงินทุนในการเทรด 50,000 ดอลลาร์ หากคุณทำกำไร 3% ต่อเดือน คุณจะได้กำไร 600 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 18,000 ดอลลาร์ต่อปี โดยอัตราผลตอบแทนการลงทุนต่อปีอยู่ที่ 36% ถูกต้องไหม? คุณอาจคิดว่านี่มันแย่เกินไป!

มุมมองของนักลงทุน

คุณอาจคิดว่านี่คือการเสียเวลา หรือว่าอาจต้องหางานที่ “จริงจัง” หรือคุณต้องทำให้ผลตอบแทนสูงถึง 200%! แต่ปัญหาคือคุณยังมองเรื่องนี้ในมุมมองของพนักงาน ในขณะที่เทรดเดอร์ควรมองในแง่ของนักลงทุน

มุมมองทางคณิตศาสตร์

ลองคิดจากมุมมองทางคณิตศาสตร์ดู ในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อนของคุณจะทำเงินได้ 100,000 ดอลลาร์ต่อปี รวมเป็น 1 ล้านดอลลาร์ ถูกต้องไหม? แล้วในระยะเวลา 10 ปี ในฐานะนักลงทุน โดยการจัดการเงินอย่างเหมาะสม พร้อมผลตอบแทน 3% ต่อเดือน คุณจะสามารถทำเงินได้เท่าไร?

รายได้ที่คุณจะได้

แน่นอนว่า โดยประมาณการณ์ ในอัตราผลตอบแทน 3% ต่อเดือน คุณจะสามารถทำเงินได้ 1,735,549 ดอลลาร์

การเปรียบเทียบรายได้เพื่อนของคุณ

แล้วเพื่อนของคุณจะเฉลี่ยทำเงินได้เท่าไรในแต่ละเดือน (สมมติว่าเขาไม่มีโอกาสเลื่อนตำแหน่ง)? เขาจะเฉลี่ยทำรายได้ 8,333 ดอลลาร์ต่อเดือน คุณจะเฉลี่ยทำได้เท่าใด? ในอีก 10 ปีข้างหน้า คุณจะมีรายได้เฉลี่ยที่ 14,462 ดอลลาร์ต่อเดือน (สมมติว่าฝากการที่คุณทำอยู่มีอยู่แค่ 3% เท่านั้น!)

เข้าใจได้ไหมว่าทำไม?

แล้วคุณจะเข้าใจได้ไง ว่านี่คือสาเหตุที่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์จะไม่พูดคุยเกี่ยวกับรายได้จากการเทรดกับคนที่ไม่ใช่เพื่อนสนิท การนำรายได้รายเดือนของคุณไปเปรียบเทียบโดยตรงกับรายได้พนักงานไม่มีเหตุผลเลย ในฐานะเทรดเดอร์ รายได้ของคุณนั้นจะเปลี่ยนแปลงในรูปแบบเชิงชี้วัด

ผลตอบแทนที่ไม่สามารถเทียบได้

การเปรียบเทียบรายได้จากการเทรดฟอเร็กซ์กับงานหรืออาชีพปกติจะไม่มีความหมายในทางที่ดี ในฐานะที่คุณเป็นเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ คุณต้องคิดเหมือนนักลงทุน มองกำไรเป็นรายได้ของพอร์ตการลงทุน โดยทั่วๆ ไป รายได้ของเพื่อนคุณจะเติบโตอย่างมีเส้นตรงในขณะที่ศักยภาพในการเติบโตของคุณนั้นไม่มีขีดจำกัด

สรุป

โดยสรุป การนำแอปเปิ้ลไปเปรียบเทียบกับส้มไม่มีความหมายอะไร